
การผลิตที่เชื่อมต่อกัน (Connected Manufacturing) คือ วิวัฒนาการในการเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการในอุตสาหกรรมการผลิต โดยการเชื่อมโยงทุกส่วนประกอบภายในระบบนิเวศการผลิตได้อย่างราบรื่น เป็นแนวทางแบบองค์รวมที่เชื่อมต่อระบบโรงงาน ซัพพลายเชน และผู้ปฏิบัติงาน เข้าไว้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เพื่อเสริมประสิทธิภาพการผลิต เพิ่มผลผลิตภาพ และนวัตกรรมใหม่ๆ
การผลิตที่เชื่อมต่อกัน คืออะไร
การผลิตที่เชื่อมต่อกัน เป็นการบูรณาการของ 3 ส่วนหลัก:
โรงงานที่เชื่อมต่อกัน
แกนหลักของการผลิตที่เชื่อมต่อกัน ซึ่งเครื่องจักรและระบบจะสื่อสารระหว่างกัน การเชื่อมต่อนี้จะช่วยให้สามารถมอนิเตอร์ได้แบบเรียลไทม์ ช่วยงานการบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ (Predictive Maintenance) และปรับปรุงกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น และลดเวลาที่เครื่องจักรหยุดทำงาน
ซัพพลายเชนที่เชื่อมต่อกัน
ส่วนนี้จะเน้นการสื่อสารที่ราบรื่นและความโปร่งใสทั่วทั้งซัพพลายเชน เริ่มตั้งแต่ซัพพลายเออร์ที่จัดหาวัตถุดิบไปจนถึงลูกค้าปลายทาง การที่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้แบบเรียลไทม์จะช่วยในการตัดสินใจได้ดีขึ้น ลดของเสีย ปรับปรุงเวลาจัดส่ง และช่วยเสริมประสิทธิภาพการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาด
ผู้ปฏิบัติงานที่เชื่อมต่อกัน
เพิ่มศักยภาพให้กับผู้ปฏิบัติงานด้วยเครื่องมือ ข้อมูล และการฝึกอบรมเป็นสิ่งจำเป็น สำหรับการผลักดันในการเพิ่มผลผลิตและความปลอดภัยให้ได้สูงสุด ผู้ปฏิบัติงานที่เชื่อมต่อเหล่านี้จะสามารถเข้าถึงข้อมูลแบบเรียลไทม์ ข้อมูลเชิงลึกของแต่ละบุคคล และการฝึกอบรม ซึ่งจะช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากขึ้นโดยไม่ต้องคำนึงถึงทักษะของพวกเขา ซึ่งแต่ละส่วนดังกล่าวไม่ควรแยกออกจากกัน เพราะทุกส่วนจะต้องเชื่อมโยงกัน เพื่อให้เกิดการสื่อสารและการประสานงานที่ราบรื่นทั่วทั้งระบบนิเวศการผลิตทั้งหมด
บทบาทของ AI ในการผลิตที่เชื่อมต่อกัน
AI คือพลังขับเคลื่อนเบื้องหลังของแต่ละส่วนการผลิตที่เชื่อมต่อกัน
โรงงานที่เชื่อมต่อกัน
AI จะวิเคราะห์ข้อมูลจากเซ็นเซอร์และเครื่องจักรเพื่อคาดการณ์ ความต้องการการบำรุงรักษา และการเพิ่มประสิทธิภาพตารางการผลิตเพื่อลดของเสียและเสริมประสิทธิภาพ
ซัพพลายเชนที่เชื่อมต่อกัน
AI จะวิเคราะห์ข้อมูลซัพพลายเชนอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยในการจัดสรร ทรัพยากรและการขนส่ง ช่วยลดต้นทุนและปรับปรุงเวลาการส่งมอบสินค้า
ผู้ปฏิบัติงานที่เชื่อมต่อกัน
AI ทำหน้าที่เหมือนเป็นโค้ชส่วนตัวที่จะให้ข้อมูลเชิงลึก การแจ้งเตือนด้านความปลอดภัยและการฝึกอบรมเฉพาะบุคคลแก่ผู้ปฏิบัติงานเพื่อปรับปรุงการตัดสินใจและประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน
ทำไมต้องลงทุนในการผลิตที่เชื่อมต่อกัน?
การลงทุนใน การผลิตที่เชื่อมต่อกันถือเป็นความจำเป็นเชิงกลยุทธ์
ที่ให้ประโยชน์มากมาย เช่น:
- เพิ่มประสิทธิภาพ
ปรับปรุงการดำเนินงานและลดของเสีย
- ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต
ปรับการใช้ทรัพยากรและกระบวนการให้เหมาะสมเพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น
- การพยากรณ์ที่ดีขึ้น
ให้ข้อมูลที่ถูกต้องเพื่อช่วยในกระบวนการตัดสินใจ
- เพิ่มความพึงพอใจของผู้ปฏิบัติงาน
ช่วยเพิ่มสภาพแวดล้อมในการทำงานและความปลอดภัย
- ความยั่งยืน
ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมผ่านการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ
- ความได้เปรียบทางการแข่งขัน
ให้มุมมองการดำเนินงานแบบองค์รวม ขับเคลื่อนความเป็นเลิศและความสามารถในการทำกำไร
ความท้าทายและประโยชน์ของการเปลี่ยนผ่านไปการผลิตที่เชื่อมต่อกัน
รูปแบบการดำเนินงานการเปลี่ยนผ่านไปสู่การผลิตที่เชื่อมต่อนั้นเป็นเสมือนความท้าทาย อย่างเช่น การ บูรณาการเทคโนโลยี คุณภาพข้อมูลการรักษาความปลอดภัย ค่าใช้จ่ายการฝึกอบรม และการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรม
อย่างไรก็ตามผลประโยชน์นั้นก็คุ้มค่าที่จะต้องเผชิญปัญหาเหล่านี้ IFS จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเห็นการดำเนินงานที่ครบถ้วน เพิ่มประสิทธิภาพ และ เสริมสร้างความสามารถในการทำกำไรในระยะยาว
บทสรุป
การผลิตที่เชื่อมต่อกันคือ แนวทางการเปลี่ยนแปลงที่จะบูรณาการทุกส่วนงานของกระบวนการผลิต โดยการใช้ประโยชน์ AI และแพลตฟอร์ม IFS Cloud ผู้ผลิตสามารถบรรลุเป้าหมายที่สูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเสริมประสิทธิภาพ เพิ่มผลผลิต และสร้างความยั่งยืน เพื่อความได้เปรียบในการแข่งขันในอุตสาหกรรม
IFS Cloud สนับสนุนการผลิตที่เชื่อมต่อกันอย่างไร
IFS Cloud ถือว่าเป็น Backbone ทางดิจิทัลสำหรับการผลิตที่เชื่อมต่อโดยการบูรณาการ:
โรงงานที่เชื่อมต่อกัน
ระบบ MES ของ IFS Cloud ช่วยให้การสื่อสารของ IoT (Internet of Things) การจัดการสินทรัพย์ และการบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์แบบเรียลไทม์ เพื่อให้มั่นใจในประสิทธิภาพการผลิตที่ดีที่สุด
ซัพพลายเชนที่เชื่อมต่อกัน
ฟังก์ชันในการวางแผนซัพพลายเชน การบริหารคลังสินค้า และการจัดการขนส่งของ IFS Cloud จะช่วยในการมองแบบต้นจนจบ (End-to-End) การตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability) การปรับปรุงความคล่องตัว ความยืดหยุ่น และความยั่งยืนตลอดห่วงโซ่คุณค่า
ผู้ปฏิบัติงานที่เชื่อมต่อ
ด้วยเครื่องมืออย่าง Poka จะทำให้ IFS Cloud เพิ่มศักยภาพให้กับผู้ปฏิบัติงานให้สามารถเข้าถึงข้อมูลและการฝึกอบรมที่จำเป็น ไม่เพียงแต่ผลักดันการปรับปรุงด้านความปลอดภัย และผลิตภาพ แต่ยังรวมถึงการมีส่วนร่วม (Engagement) และความพึงพอใจในงาน
IFS เป็นผู้พัฒนาและส่งมอบซอฟต์แวร์องค์กรระบบคลาวด์ให้กับบริษัทต่างๆ ซึ่งบริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้า บริษัทที่ดูแลรักษาสินทรัพย์ และบริษัทด้านบริการทั่วโลก ด้วยความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมของบุคลากรและระบบนิเวศที่กำลังเติบโตของของเรา รวมถึงความมุ่งมั่นใน การส่งมอบคุณค่าในแต่ละขั้นตอนทำให้ IFS เป็นซัพพลายเออร์ผู้นำที่ได้รับการยอมรับและได้รับการแนะนำมากที่สุดในตลาด
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมหรือพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านระบบธุรกิจการผลิต (Manufacturing) สามารถกรอกข้อมูลเพื่อให้เราติดต่อกลับได้ที่นี่