เปลี่ยนวงจรชีวิตสินทรัพย์เป็นบริการ (Servitization) : รายได้รูปแบบใหม่ของอุตสาหกรรมก่อสร้าง

ปัจจุบันเจ้าของสินทรัพย์จำนวนมากกำลังมองหาช่องทางที่จะเอาท์ซอร์สการบำรุงรักษาสินทรัพย์ตลอดอายุการใช้งานสินทรัพย์   บริษัทรับเหมาก่อสร้างมักจะนำเสนอสัญญาบริหารสินทรัพย์ที่ทางบริษัทสร้างหรือผู้รับเหมาอื่นเป็นคนสร้าง

การเจอปัญหากำไรโครงการที่ลดลง การหยุดชะงักจากโรคระบาดโควิด และรายได้ที่ไม่ต่อเนื่อง ทำให้บริษัทรับเหมาก่อสร้างหันมาเสริมงานบริการซึ่งเป็นรูปแบบธุรกิจใหม่ อย่างไรก็ตาม การทำ “สัญญาเพื่อผลลัพธ์” ทำให้บริษัทต้องเปลี่ยนแปลงความคิดโดยสิ้นเชิง บริษัทก่อสร้างต้องบริหารสัญญาที่ซับซ้อน และผลกำไรขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพงานและการคำนวณต้นทุนได้อย่างแม่นยำ  

บทความนี้มองเห็นโอกาสที่จะนำเสนอรูปแบบธุรกิจการจัดการวงจรสินทรัพย์แบบครบวงจร  ซึ่งต้องพัฒนาองค์กรสู่ Digital Transformation และประยุกต์ใช้ซอฟต์แวร์องค์กร (Enterprise Software) เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน

เมื่อการก่อสร้างเปลี่ยนมาเป็นการจัดการ และการบำรุงรักษา

รูปแบบดั้งเดิมของบริษัทรับเหมาก่อสร้างจะแบ่งโครงการออกเป็น 2 เฟส โดยเฟสก่อสร้างจะได้เงินบริหารโครงการจากรายจ่ายที่นำไปลงทุน (Capital Expenditure)  เมื่อโครงการเริ่มออกแบบ วางแผน จัดทำงบประมาณ การจัดซื้อ ทำสัญญา และก่อสร้างเสร็จสิ้น ก็จะมีการส่งมอบไปยังบริษัทอื่น เพื่อดำเนินการบำรุงรักษาโดยค่าใช้จ่ายส่วนดำเนินการ (Operating Expenditure)

แต่ขณะนี้เราเห็นการเปลี่ยนแปลงเริ่มแบ่งแยกมากขึ้น การเผชิญปัญหาอัตรากำไรต่ำ ความเสี่ยงสูงและกำไรที่ลดลงในการสร้างสินทรัพย์   สัญญาในการบริหารและบำรุงรักษาสินทรัพย์ไม่ใช่เงินเล็กน้อย  และด้วยอายุของสินทรัพย์ซึ่งอาจจะกินเวลาหลายสิบปี และจำเป็นต้องมีการบำรุงรักษา การตกแต่งใหม่และอาจจะต้องมีการปรับปรุงสินทรัพย์  รายได้ต่อปีในการซ่อมแซมและบำรุงรักษาอาคารเริ่มตั้ง 1.40 – 1.85 เหรียญต่อตารางฟุต   การใช้เมตริกสัดส่วนของมูลค่าสินทรัพย์การเปลี่ยนทดแทนโดยเฉลี่ย (Average Replacement Asset Value: RAV)  ค่าใช้จ่ายประจำปีในการบำรุงรักษาที่ดีที่สุดก็คือ 3% หรือน้อยกว่านั้น  ดังนั้นสรุปได้ว่าสัญญาการบำรุงรักษาอาคารจะอยู่ที่ 3-5 เปอร์เซนต์ของราคาสินทรัพย์ทั้งหมดต่อปี  ในเรื่องของอายุการใช้งานและการใช้งานโดยเฉลี่ย  จากการศึกษาเมื่อเร็วๆนี้ได้ทำการศึกษาอาคารสูงที่สุด 100 อาคารที่มีการรื้อถอนโดยเจ้าของ ค้นพบว่าโดยเฉลี่ยอาคารมีอายุโดยเฉลี่ย 42 ปี  อ้างอิงตามอายุอาคารนี้ สัญญาบำรุงรักษาจะมีมูลค่า 120-200 เปอร์เซนต์มากกว่าราคาของตัวอาคาร   นอกจากนี้การรับประกันรายได้การดำเนินการหลังจากสร้างจะช่วยให้ผู้รับเหมาสามารถลดราคาประกวดการก่อสร้างเบื้องต้นได้ เพิ่มประสิทธิภาพในการแข่งขันและได้โปรเจกต์มากขึ้น

การทำกำไรในอุตสาหกรรมนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการสร้างอาคารหรือสินทรัพย์อีกต่อไป แต่เป็นแพ็คเกจที่ครบวงจร ที่ครอบคลุมถึงระบบการจัดการโครงการและวงจรชีวิตของสินทรัพย์  สร้างโอกาสให้ผู้รับเหมาและผู้ผลิตให้เติบโตในอุตสาหกรรมด้วยกระแสรายได้ใหม่และกินระยะยาวนาน   ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ที่รายงานซึ่งจัดทำโดยบริษัทแม็คเคนซี่ได้ประมาณการการหยุดชะงักในอุตสาหกรรมการก่อสร้างส่งผลกระทบต่อกำไรที่เกิดจากทุกจุดในอุตสาหกรรม (Annual Profit Pool) มูลค่าสูงถึง 265 พันล้านเหรียญ  

บทบาทของการทำ Digitalization และซอฟต์แวร์สำหรับองค์กร

ทั่วโลก มีบริษัทรับเหมาก่อสร้างที่มีบริการดำเนินการและบำรุงรักษาอาคารอยู่ในปัจจุบันน้อยมาก แต่ในประเทศอังกฤษแตกต่างออกไป มีบริษัทรับเหมาก่อสร้างประมาณ 20 เปอร์เซนต์ที่มีแผนกดูแลอาคารอยู่ด้วย และบริษัทเหล่านี้ต่างก็มีการใช้เทคโนโลยี Digital Transformation และซอฟต์แวร์องค์กรที่มีความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมนี้   โดยหน่วยงานเหล่านี้ต่างก็มีบทบาทสำคัญทำให้ตระหนักถึงผลิตภัณฑ์ที่เน้นบริการ   ด้วยข้อมูลเรียลไทม์ ครบถ้วน และมีรายละเอียดเชิงลึกเป็นหัวใจในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ อย่างเช่นข้อตกลงระดับการให้บริการ Service-Level Agreement (SLAs) การจัดตารางงาน และการเพิ่มประสิทธิภาพงานบริการภาคสนาม      บริษัทต่างๆ เริ่มพากันมองหาซอฟต์แวร์เพื่อเสริมประสิทธิภาพในการบำรุงรักษามากขึ้น ที่จะช่วยให้มองเห็นภาพรวม ช่วยด้านการทำรายงาน และการควบคุมที่จะเป็นในการสร้างรายได้จากโมเดลธุรกิจการดูแลวงจรสินทรัพย์ใหม่นี้

ผลกระทบของการผลิตแบบนอกสถานที่

การผลิตที่บูรณาการกับการก่อสร้าง (การผลิตแบบนอกสถานที่หรือแยกส่วน) โดยชิ้นส่วนประกอบที่ผลิตโดยโรงงานถูกนำส่งไปยังไซต์ก่อสร้างเพื่อทำการประกอบและติดตั้ง บริษัทหน้าใหม่ที่ยอมรับแนวทางนี้ทำให้รูปแบบการก่อสร้างแบบเดิมๆเปลี่ยนไป

บริษัทบูคลูก(Boklok) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัทก่อสร้าง Skanska และอีเกียได้สร้างบ้านประมาณ 12,000 หลังทั่วภูมิภาคสแกนดิเนเวีย และตอนนี้บริษัทบูคลูกกำลังก่อสร้างในประเทศอังกฤษ โดยการใช้วิธีการก่อสร้างรูปแบบใหม่ เช่น บ้านไม้ที่ผลิตนอกสถานที่ รวมเข้ากับของตกแต่งจากอีเกีย ขนส่งไปประกอบที่ไซต์งาน  โมเดลการผลิตนอกสถานที่นี้จะช่วยด้านต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยลดความล่าช้าอันเป็นผลมาจากสภาวะอากาศเลวร้าย การก่อสร้างจะทำได้เร็วยิ่งขึ้น ลดเศษวัสดุก่อสร้างและใช้ทักษะเฉพาะทางน้อยลง

ผู้รับเหมาแบบดั้งเดิมที่ตอบรับความเปลี่ยนแปลงในการก่อสร้างแบบโมดูลจะต้องปรับเปลี่ยนตัวเองอย่างมาก  บริษัทต้องสามารถใช้ระบบห่วงโซ่อุปทานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถติดตามสินค้าคงคลังและประสานงานกับชิ้นส่วนสำเร็จรูปที่จัดส่งมาด้วย ซอฟต์แวร์ IFS Cloud สามารถช่วยให้บริษัทวางแผนและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน สร้างมาตรฐานกระบวนการทำงาน และจัดการกับผู้ค้าภายนอกที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่การออกแบบโครงการ การผลิต และระบบโลจิสติกส์

การจัดการข้อมูลโครงการก่อสร้างทั้งโครงการ (Building Information Modelling (BIM) โมเดลเสมือนจริงของวัตถุกายภาพ (Digital Twins) และการทำความเข้าใจความเสี่ยง

อุปสรรคสำคัญสองประการของการประมูลสัญญาบำรุงรักษาแบบราคาคงที่ (Fixed Price) ก็คืออายุสัญญาอาจใช้เวลาหลายปีซึ่งต้องทำความเข้าใจที่ถูกต้องแม่นยำและการหาค่าใช้จ่ายและความเสี่ยง

รูปแบบการจัดการข้อมูลโครงการก่อสร้างทั้งโครงการ (BIM) แบบดิจิตอล 3 D เป็นมากกว่าการออกแบบ และเทคโนโลยี BIM ล่าสุดที่จะสร้างโมเดลเสมือนจริง Digital Twin ได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นปัจจัยในด้านอื่นๆ อย่างเช่นเวลาและการจัดทำตารางเพื่อใช้ในการก่อสร้าง รูปแบบ BIM ช่วยในการวิเคราะห์วงจรชีวิตได้อย่างแม่นยำ การประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมของผลิตภัณฑ์ สินทรัพย์หรือบริการ

พวกเราเห็นโอกาสที่จะบูรณาซอฟต์แวร์ ERP ซึ่งจะช่วยให้งานด้านดูแล การบำรุงรักษา และการตกแต่งเพื่อนำมาคำนวณจากข้อมูลโมเดลเมื่อทำการประมูล  โซลูชันของ IFS จะช่วยให้ข้อมูลสินทรัพย์ BIM เพื่อบูรณาการทุกระยะของวงจรชีวิตสินทรัพย์

Disruptor ที่ไม่ถูก Disruption

การเป็น Disruptor ในกลุ่มธุรกิจไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนองค์กรแบบ Disruptive   หนึ่งในแง่ที่น่าสนใจมากที่สุดของซอฟต์แวร์องค์กร ก็คือ บริษัทก่อสร้างแบบดั้งเดิม ที่ได้ใช้ IFS Cloud การก่อสร้างอาคาร ได้พัฒนาอย่างรวดเร็วในนำเสนอบริการดูแลสินทรัพย์ การบำรุงรักษาวงจรอายุสินทรัพย์ ที่ปฏิบัติได้ดี ความสามารถในด้านการจัดการ การดำเนินการสามารถเพิ่มได้อย่างไร้รอยต่อโดยการบูรณาการกับโมดูล ทำให้องค์กรสามารถเพิ่มคุณค่าทางธุรกิจที่ยั่งยืนจากรายได้การดูแลสินทรัพย์ซึ่งสร้างผลกำไรและมีความหลากหลาย

กรุณากรอกแบบฟอร์ม

สำหรับผู้ที่สนใจปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้าน IFS Cloud

We use cookies to improve performance. and good experience in using your website You can study the details at Privacy Policy and you can manage your own privacy by clicking Setting

Privacy Preferences

You can choose cookie settings by on/off. Cookies of each type are available on request, except for essential cookies.

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    Cookies Details

  • คุกกี้การตลาด

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลวส่วนบบุคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ Cookies ที่เราใช้งานได้แก่ Google Ads และ Facebook Pixel

Save